วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

Traveling in Beijing with my dad 5/9/08


เมื่อวานเพิ่มจะมาถึงปักกิ่ง บอกตามตรงว่า ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร วันนี้ ตอนเช้าก็เข้าไปที่มหาลัย เพื่อที่จะลงทะเบียน ไม่คิดว่า การลงทะเบียนจะยากเย็นขนาดนี้ นี่ถ้าไม่ได้พี่ไกด์ที่พูดภาษาจีนเป็นนะแย่แน่เลย คนที่นี่ ก็นึกว่าพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ว่า ..... ได้นิโหน่ย -_-' 
            
       

อาจจะงงว่าภาพพวกนี้คืออะไร  เราขอขนานนามภาพนี้ว่า โค้งมรณะ ^^ เพราะว่านี่คือ
แถวที่ต้องรอเพื่อที่จะ Register  กว่าจะทำเรื่องทุกอย่างเสร็จก็ปาไป 3 ชมกว่าแล้ว (จริงๆไอ้คนที่เห็นในรูปทั้งหมดก็เรียกง่ายๆว่าเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน)


หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการยืนรอมาสามชั่วโมงแล้ว
ก็ไปกินข้าว หลังจากนั้นก็ได้ไปเที่ยวซักที 
สถานที่ที่เราไปก็คือ Aquarium

นี่คือ เสาส่งสัญญาณโทรทัศน์ขอ CCTV   ไม่รู้ว่ามันจะสร้างใหญ่อะไรนักหนา มันกลัวสัญญาณโทรทัศน์ไม่ชัดมั้ง ฮ่าๆๆ ^^
 
พอเข้าไปก็ประทับใจเลย ปลาตัวแรกที่ เห็นคือปลาดุกยักษ์ เห็นแล้วคิดถึง "ยำ ปลาดุกฟู"

สักพักก็เดินมาเจอไอ้ตัวนี้ แต่ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร ก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า "ปลา พีน๊อกคิโอ้" แปลกดีๆ เดินไปเดินมาก็เห็นปลาทั่วๆไป แต่พอเดินเข้าอุโองแล้วเห็นปลาตัวนึง น่าแปลกมาก หรือว่า เราโง่ก็ไม่รู้ มันคือเหาฉลามนั่นเอง

เราเคยคิดว่าไอ้พวกเหาฉลามมันแค่ว่ายไล่ตามไปตามใต้ท้องฉลาม เฉยๆ แต่ความจริงก็กระจ่างขึ้น 

สรุปว่าเหาฉลามมันมีตัวดูดอยู่บนหัวด้วยแหละ 
O_o มันแค่ว่ายไปแล้วเอาหัวดูดปลาฉลามไว้ 
แล้วมันก็กินของเหลือแค่นั้นเอง สบายฉิบหาย

หลังจากที่ตื่นตระหนกตกใจกับการได้เห็นเหาฉลามแล้ว ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ จริงๆไปดูที่พารากอนก็ได้ มีเหมือนกันแหละ ^^  หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปที่ "พระราชวังฤดูร้อน"
              
พระราชวังฤดูร้อนถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของซูสีไทเฮา ไว้เป็นที่พักอาศัยในฤดูร้อนเพราะว่าในพระราชวังต้องห้ามนั้น ไม่มีต้นไม้ ทำให้มีอากาศร้อนมากในฤดูร้อน แต่ซูสีไท
เฮาได้อ้างว่าต้องการให้ทหารเรือนั้นได้ฝึกรบ ก็ได้มีการสั่งให้ขุด ทะเลสาบนี้ขึ้นมา ที่เห็น
ในรูปเป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น บริเวณสระทั้งหมดนั้น กว้าง สัดๆ โปรดฟังอีกครั้ง กว้างสัดๆ ทั้งหมดนี้ใช้คนขุดล้วนๆ ความลึกประมาณ 5-10 เมตร แล้วดินทั้งหมดหายไปไหนรู้มั้ย?  ซูสีไทเฮา ทรงสั่งให้สร้างภูเขาเพื่อให้เหมาะกับหลักฮวงจุ้ย ก็คือไอ้เขาในรูปที่เห็นอ่ะแหละ  ถ้าคิดไม่ออกว่าใหญ่แค่ไหนก็ลองมองด้านล่างของรูปอ่ะ  ไอ้ทีเห็นเห็นสีขาวๆอันเล็กๆขวามือ ก็คือเรือ speed boat อ่ะแหละ 

อันนี้ก็ของแปลกอีกอันนึง นี่เป็นเรือที่สร้างขึ้นด้วยหินอ่อน?
ช่ายๆๆๆ คงคิดเหมือนกันสินะว่า จะสั่งให้สร้างเรือที่ทำจากหินอ่อนไปทำซากอะไร ^^ ก็เลยตัดสินใจถามพี่ไกด์ว่า ทำไม เค้าก็เลยบอกว่า เป็นเรื่องของฮวงจุ้ย
หินอ่อนมันหนัก ก็หมายถึงให้อำนาจอยู่กับซูสีไทเฮาไปตลอด

ก็เลยมาถึงบางอ้อ ^^




รูปนี้ที่เห็นอยู่ก็คงเป็นระเบียงที่ยาวที่สุดในโลกมั้ง ยาวเกือบกิโลอ่ะ
ไม่รู้จะสร้างทำไมยาวๆ เดินซะขาลากเลยหละ ^^แต่ด้านในระเบียง  จะมีภาพวาดอยู่เต็มไปหมดเลย และแต่ละภาพจะไม่ซ้ำกันเลยซักอัน 
-_-' ตลอดเกือบหนึ่งกิโลนั้น มีรูปทั้งสองข้างทางเลย




 
ไอ้สะพานนี่ไม่ได้มีตำนานอะไรกับเค้าหรอก แค่เห็นมันสวยดีเลยถ่ายมา ^^

แล้ววันนี้ก็กลับมาที่โรงแรมด้วยอาการปวดขาอย่างแรงเพราะเดินเยอะ ^^ 
โปรดติดตามตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: