วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

การท่องเทียววันที่สอง 7/9/08

เมื่อคืนนอนหลับสบายเลย สงสัยเพราะว่า เดินเยอะ เหนื่อย ^^  ตอนเช้ามาไม่ได้กินเข้าเพราะว่า ไม่หิวเลย กินตลอดทางเมื่อวานนี้

วันนี้ตอนเช้าก็ได้มุ่งหน้าไปที่ วัด ลามะ
วัดนี้เคยเป็นวังขององค์ชายสี่มาก่อน (นี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ ^^) สมัยนั้น ฮ่องเต้นับถือพุทธ ก็เลยอันเชิญพระภิกษุจาก Tibet มาจำวัดที่นี่ หลังจากนั้น ก็สละวังนี้ให้เป็นวัดแทน



บรรญากาศในวัดร่มรื่นดี แต่คนเยอะไปหน่อย ส่วนใหญ่ในสมัยก่อนวังจะสร้างเป็นชั้นๆ แบ่งออกเป็นส่วนหน้า กลาง และส่วนหลัง แต่ละส่วนจะมีพระที่มีความหมายไม่เหมือนกัน เช่น ข้างหน้ามีพระสังกระจาย มีท้าวจัตุโลกบาล etc. ส่วนกลางก็จะมี พระที่เป็นผู้รักษาโรค พระที่จะอวยพรเรื่องการศึกษา และอีกองค์นึงลืมไปแล้วว่าช่วยเรื่องอะไร ส่วนชั้นในจะเป็น พระพุทธเจ้า 3 องค์ 1. พระพุทธเจ้าในอดีต 2.พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน และ 3. ในอนาคต








นี่เป็นรูปปั้นของ 3 ภพคือ ในน้ำคือ นรก ส่วนตรงกลาง


ที่อยู่เหนือน้ำก็คือ โลกมนุษย์ และส่วนที่ลอยอยู่ด้าน


บนคือ สวรรค์




นี่เป็นส่วนในของวัดแล้ว สวยดีๆ จริงๆอยากจะถ่ายบรรยากาศข้างในมาให้ดูแต่ว่าเค้า ไม่ให้ถ่ายเลยเสียใจด้วยนะ

อันนี้ขอรูปใหญ่หน่อย นานๆจะได้มีรูปกะเค้าซะที
ตอนแรก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้นี่เค้าเอาไว้ทำอะไร เห็นแต่เค้าหมุนๆกันก็เลยไปหมุนมั่ง พี่ไกด์
ก็เลยบอกว่านี่เค้าเอาไว้สวดมนต์ตามพิธีของชาวธิเบตเค้า

สิ่งของต่อไปนี้เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมาก
 นี่เป็นถังขยะอายุ... ไม่กี่ปี แต่ว่าสวยดีเลยถ่ายมาให้ดู

หลังจากนั้นเราก็ไปต่อด้วย "พระราชวังต้องห้าม" แน่นอน คำถามแรกที่พุ่งเข้ามาในหัวของทุกๆคนก็คือ   "ทำไมมันจะต้องห้ามวะ?" ก็เลยถามพี่เค้าอีกที พี่เค้าก็บอกว่า  มันหมายถึงคนที่อยู่ข้างนอกอ่ะ ห้ามเข้าไป ส่วนคนที่เข้าไปแล้วห้ามออก เช่นพวก นางสนม อะไรงี้

นี่คือพระราชวังต้องห้าม แต่ว่านี่เราเข้าจากทางด้านหลังนะ เพราะว่า จุด climax จะอยู่ด้านหน้าของวังนี้





ศิลปะหินสลักอยู่ข้างบันไดที่มีแต่ฮ่องเต้เท่านั้นที่จะเดินขึ้นบันไดนี้ได้ สวยดีๆ 




  ี่เป็นห้องสมรสฮ่องเต้

ส่วนอันนี้เป็นที่กินอาหารในตำหนักที่ รูปนี้ไม่ได้ตั้งใจถ่ายลุงอ้วนนะ แต่แกไม่ยอมไปซักที
แต่ก็อาร์ตดีๆ

นี่เป็นที่ว่าราชการของฮ่องเต้ในส่วนชั้นในของพระราชวัง ส่วนใหญ่จะมีแค่ข้าราชการระดับสุงที่จะมาเข้าเฝ้าในเขตนี้ได้เท่านั้น







และนี่ก็คือ เทียนอันเหมินนั่นเอง

โอย อัพโหลดรูปเหนื่อยเลย เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้มาต่อๆ
To Be continue

ไม่มีความคิดเห็น: